Friday, February 24, 2017

#6 Led Zeppelin :: BBC Sessions (1997)

ถ้ามีแฟน Led Zep ผู้ใดกวาดสายตามองชื่อเพลงใน BBC Sessions แล้วรำพึงว่า อืมม์ มีเพลงที่ไม่คุ้นตาอยู่สองเพลงเอง ที่เหลือเราก็มีหมดแล้ว ไม่ซื้อดีกว่า มันผู้นั้นสมควรถูกนำไปประหาร ประหารออกจากความเป็นแฟนของ Led Zep!

เพราะแฟนของวงนี้ย่อมต้องรู้ว่า Zep เป็นหนึ่งในวงร็อคที่ improvise ได้ระเบิดระเบ้อที่สุด พวกเขาสามารถเล่นเพลงเดียวกัน ด้วยความยาวเท่ากัน แต่การเรียบเรียงแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง และที่เรียกว่า"การเรียบเรียง"นั้น ไม่ใช่พวกเขาจะมานั่งเขียนสกอร์ แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นโดยคีตปฏิภาณสดๆบนเวที ไม่เกินเลยไปหรอก ที่จะบอกว่า แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่รู้ ว่าการบรรเลงเพลงร็อคในคืนนี้ มันจะยืดยาวเลยเถิดกันไปขนาดไหน ดังนั้น แม้จะฟังเพลงเหล่านั้นจนปรุมาแล้วจากเวอร์ชั่นสตูดิโอ ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่ได้ยินอะไรใหม่ๆจาก BBC Sessions นี้

ครับ.... บันทึกการแสดงจาก BBC Sessions นี้เป็นหลักฐานยืนยันถึงตำนานในการเล่นสดของพวกเขา หลายๆแทร็คเล่นได้"ถึงใจ"กว่าใน studio version เป็นไหนๆ ความเนี้ยบของการบันทึกเสียงอาจจะสู้ไม่ได้ แต่ความมีชีวิตชีวา,ความคิดสร้างสรรค์ และพลัง... มันทำให้ผมกลับไปฟังสองอัลบั้มแรกของ Zep แทบไม่ได้อยู่หลายปี...!!!

ซีดีแผ่นแรกเป็นบันทึกการแสดงกึ่งไลฟ์ในสตูดิโอของ BBC ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 1969 และออกอากาศในหลายๆรายการของ BBC--Top Gear ของ John Peel (สองรอบ) , Chris Grant's Tasty Pop Sundae และ One Night Stand--Playhouse Theatre มันเป็นช่วงหลังจากพวกเขาออกอัลบั้มแรก Led Zeppelin กันมาแล้ว และยังไม่ได้ออกชุดสอง Led Zeppelin II บางเพลงจึงเป็นการพรีวิวอัลบั้มใหม่ไปในตัว

สมาชิกทั้ง 4 อยู่ในฟอร์มสุดยอด โดยเฉพาะ Robert Plant ที่ต้องบอกว่าไม่มีอัลบั้มไหนที่เขาจะร้องได้สุดเสียงสังข์ขนาดนี้ Jimmy Page ก็ร้อนเร่าเหมือนมีเปลวไฟที่ปลายนิ้วตลอดเวลา ลูกโซโล่ของเขาใน Whole Lotta Love เป็นอะไรที่อร่อยหูอย่างที่สุด John Paul Jones แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นทัพหลังที่สำคัญแค่ไหน ด้วยการเดินเบสราวเครื่องจักร และเสริมด้วยออร์แกนที่เล่นราวกับมืออาชีพทางนั้นในบางแทร็ค ส่วน Bonham... เขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่ดูเหมือนเอ็นจิเนียร์ของ BBC จะรับมือกับการกระหน่ำของบองโซ่ได้ไม่เต็มที่นัก ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย!

ในแผ่นแรกนี้ การที่มีบางเพลงซ้ำหลายรอบ เช่น Communication Breakdown (3), You Shook Me (2), I Can't Quit You Baby (2) กลับไม่ใช่สิ่งที่แฟนเพลงควรจะบ่น ตรงข้าม มันเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ความเป็น improvisers ของพวกเขา เพราะแต่ละเพลง แตกต่าง และยอดเยี่ยม อย่างที่ผมเอ่ยมาแล้วตอนต้น

เพลงที่ต้องกล่าวถึงเป็นพิเศษคือ การนำเพลงบลูส์ของ Robert Johnson มาต่อยอด Traveling Riverside Blues (บันทึกเสียง 16 มิ.ย.1969) และออกอากาศทางรายการ Tasty Pop Sundae ของ Chris Grant ในวันที่ 22 เดือนเดียวกัน ไม่เคยได้ยินใครนำเพลงของ RJ มาเล่นใหม่ได้หนัก และ เท่อย่างนี้ โดยเฉพาะริฟฟ์สไลด์ของเพจ สุดยอดมากๆ

ซีดีแผ่นที่สอง กระโดดไปข้างหน้าอีก ๒ ปี เป็นการแสดงที่ Paris Theatre, London ในวันที่ 1 ก.ค. 1971 เป็นการแสดงแบบจัดเต็ม 10 เพลง และ Led Zeppelin ก็กำลังใกล้จุดสูงสุดของพวกเขา ความบ้าดีเดือดและพุ่งพล่านอาจจะลดน้อยกว่าแผ่นแรก แต่เติมมาด้วยความยิ่งใหญ่เต็มสเกล แค่ได้ยินการเล่น Stairway To Heaven ออกอากาศเป็นครั้งแรกก็คุ้มแล้ว นักวิจารณ์และแฟนๆหลายคน ยกให้แผ่นนี้เป็น Live Album ที่สมบูรณ์ที่สุดของ Zep อ้อ เพจคุยไว้ด้วย ว่าเป็นไอเดียเขา ที่อยากให้มี full concert แบบนี้ออกทาง BBC บ้าง ทำให้ต่อมามีงานแบบนี้อีกมากมายจากศิลปินอื่นๆ

ตอนมันออกมาในปี 1997 แฟนเพลงที่เคยฟังจาก Bootleg มาก่อน อาจจะไม่ตื่นเต้นนัก เพราะมันโด่งดังในตลาดมืดมานานแล้ว แต่ผมไม่เคยฟังหรอก และคุณคงจินตนาการไม่ถูกถึงความช็อคที่ผมเป็นเมื่อฟังมันครั้งแรก ขนาดทำใจไว้แล้วนะนั่น!

ผมเลือก Led Zeppelin ไว้ในลิสต์ 4 ชุด ว่ากันตามหลัก BBC ควรจะเป็นของแถมที่อยู่ท้ายสุด แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว ผมกลับให้มันอยู่เหนือขึ้นมากว่าทั้ง Led Zep II, IV และ Led Zeppelin และติดอันดับสูงถึง 6 เพราะในความคิดของผม นี่คือ Real Led Zeppelin ที่แสดงฝีมือของพวกเขาออกมาอย่างเต็มอัตราศึกและแท้จริงครับ

(หมายเหตุ--ไม่อ้างอิงถึง The Complete BBC Sessions (2016) เพราะไม่ชอบเสียงอันสะอาดสะอ้านของมัน!--แต่ก็ออร์เดอร์ไปแล้วล่ะ)

No comments:

Post a Comment