ตอนผมเริ่มหา back catalogue ของพอลมาฟังในยุคต้น 80's ใครๆก็บอกว่าชุดนี้สิ, งานที่ดีที่สุดของเขาหลังจาก Beatles แตกวง จัดไปครับ, เทป EMI ราคา 70 บาท จากร้านเล็กๆแถวประตูน้ำ และจนถึงทุกวันนี้ Band On The Run ก็ยังคงเป็นงานที่ดีที่สุดของเขาหลังจาก Beatles แตกวงอยู่เหมือนเดิม
พอล แมคคาร์ทนีย์มีไอเดียล้ำๆในการที่จะบันทึกเสียงอัลบั้มนี้ที่ Lagos, Nigeria เขาต้องการที่จะนำดนตรีพื้นเมืองของที่นั่นออกมานำเสนอสู่โลกกว้างผ่านทางบทเพลงของ Wings และพอลก็แน่ใจว่าสตูดิโอ EMI ที่นั่น ก็คงหรูหรา ไม่ต่างอะไรจาก EMI ของประเทศอื่นๆที่เขาเคยผ่านมาแล้ว แต่ถ้าเขารู้ว่าอนาคตมีอะไรรออยู่ พอลอาจจะเปลี่ยนใจ เริ่มจากการลาออกของสมาชิกสองคน Henry McCullough มือกีต้าร์ (สาเหตุ: ไม่ยอมเล่นกีต้าร์ตามที่พอลสั่ง เลยขอลาออก) และมือกลอง Denny Seiwell (สาเหตุ: มองไม่เห็นอนาคตของ Wings เพราะเขามั่นใจว่าอีกไม่นานพอลต้องกลับไปรียูเนี่ยนกับ The Beatles แน่นอน!) โดยเฉพาะรายหลังนี่มาประกาศลาออกกันก่อนเดินทางแค่ชั่วโมงเดียว
Wings จึงเหลือแค่ Paul, Linda และมือกีต้าร์ Denny Laine สามคนก็สามคน พอลตัดสินใจเดินทางไปไนจีเรียตามแผน ถ้าคุณรู้จักพอลดีพอก็คงจะทราบว่า แค่ตัวเขาคนเดียว แถมจับเอามือมัดไว้ข้างหนึ่ง ก็ยังสามารถทำอัลบั้มได้สบายๆ พอลคิดเหมือนกันว่าจะจ้างมือกลองแอฟริกันแถวนั้นมาเล่นให้ดีไหม แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะขี้เกียจอธิบาย เล่นเองดีกว่า ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะฝีมือกลองของพอลนั้นหายห่วงอยู่แล้ว จากการฝึกซ้อมด้วยการแย่งริงโก้ตีเป็นประจำสมัย Beatles
แต่อุปสรรคไม่ได้จบแค่นั้น Lagos EMI studios เลวร้ายกว่าที่เขาจะคาดฝัน มันยังสร้างไม่เสร็จ เสียงรั่วจากด้านนอก ทุกอย่างสร้างด้วยมาตรฐานที่ต่ำกว่าปกติ จริงๆแล้วพวกเขาหาไมโครโฟนไม่เจอด้วยซ้ำในวันแรก ก่อนที่จะพบว่ามันซ่อนอยู่ในตู้ใบหนึ่ง โชคดีที่พอลหอบ Geoff Emerick เอ็นจิเนียร์คู่ใจไปด้วย Emerick มีชื่ออยู่แล้วในสถานการณ์บีบคั้นอย่างนี้ นั่นทำให้ Wings ทู่ซี้อัดเสียงไปจนได้ในสภาพอนาถาสุดๆอย่างนั้น แม้จะมีการนำเทปจาก Lagos มาบันทึกเสียงเพิ่มเติมใน AIR studios ในลอนดอน แต่สภาพเสียงห่วยๆจากไนจีเรียก็ยังมีให้เราได้ยินในอัลบั้ม โดยเฉพาะเสียงร้องที่แบนๆนั่น (น่าจะมาจากไมโครโฟนเก่าๆที่เจอในตู้อันนั้น) นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงตอนที่พอลกับลินดาถูกล้อมปล้นเกือบเอาชีวิตไม่รอด และการป่วยเฉียบพลันจากสภาพอากาศเลวร้ายของพอลอีก (นี่ก็เกือบตายเหมือนกัน) หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมศิลปินระดับเขาต้องมาทำอะไรขนาดนั้น
อาจจะเป็นเพราะพอลมั่นใจเหลือเกินว่าเพลงที่เขามีอยู่ในมือคราวนี้ ไม่ว่าจะอัดเสียงกันที่ไหนมันต้องกลายเป็นมาสเตอร์พีซของเขา หลังจากถูกนักวิจารณ์ถล่มกันชนิดค่อนข้างเละเทะในสองอัลบั้มก่อนหน้านี้ (Wildlife, Red Rose Speedway) คราวนี้พอลไม่พลาดอีก มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะมีงานระดับมงกุฏอย่างจอร์จ (All Things Must Pass) และจอห์น (Plastic Ono Band, Imagine) Band On The Run ประกอบด้วย 9 แทร็คที่ strong สุดๆ มันโชว์ความเป็นแมคก้าที่สมบูรณ์แบบออกมาในทุกๆด้าน magic ในการแต่งเพลงของเขาถูกถ่วงดุลย์ด้วยความเป็นร็อคที่ลงตัวไม่เวิ่นเว้อ การที่สมาชิกของวงเหลือแค่แกนของวงเพียงสามคน กลายเป็นเรื่องดีมากกว่าปัญหา เพราะฝีมือดนตรีของพอลและเดนนี่นั้นเกินพออยู่แล้ว และลินดา, อย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนที่ดี และเสียงประสานแปร่งๆนั้นก็เป็นเอกลักษณ์ของวิงส์ไปแล้ว
Band On The Run เพลงเปิดอัลบั้มในสไตล์มินิโอเปร่าร็อคที่มีหลายจังหวะในเพลงเดียว เชื่อมต่อกันอย่างเนียนสนิท รูปแบบนี้เป็นของถนัดของพอลอยู่แล้ว ไอเดียของคอนเซพท์คนหนีคุกนี้มาจากวาทะของจอร์จ แฮริสันในการประชุมครั้งหนึ่ง ("พวกเราทุกคนเป็นนักโทษกันทั้งนั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง") ในความเห็นของผม นี่เป็นเพลงที่ดีที่สุดในงานเดี่ยวของพอล Jet ร็อคเกอร์ทรงพลัง แรงบันดาลใจจากหมาลาบาดอร์ชื่อนั้น อัจฉริยะของพอลฉายออกมาให้เห็นด้วยการทำคอรัสให้ติดหูได้ด้วยการตะโกนแค่คำๆเดียว Bluebird และ Mamunia เพลงฟังสบายสไตล์แมคคาร์ทนีย์ที่คุณไม่รักก็ต้องรักมากไปเลย
Let Me Roll It หลายคนคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงตอบโต้ How Do You Sleep ของเลนนอน ด้วยสไตล์เพลงของเลนนอนเอง ท่อนริฟฟ์กัดหูและการร้องเค้นเสียงสุดมันส์ มันเป็นแทร็คที่เด็ดขาดนักในการเอามาเล่น Live, Picasso's Last Words (Drink To Me) ตามชื่อเพลง แต่งจากวาทะสุดท้ายในชีวิตของยอดศิลปินที่เพิ่งเสียชีวิตในปีนั้น และพอลก็พยายามทำเพลงนี้ออกมาเป็น layers คล้ายๆสไตล์การวาดของปิกัสโซ่ ปิดท้ายด้วย Nineteen Hundred and Eighty Five เปียโนร็อคในสไตล์ที่เอลตัน จอห์นน่าจะอยากมาแจมด้วย แต่เขาไม่มาหรอก ป้าแกสายเลนนอน
พอลอาจจะให้อัลบั้มนี้มีอารมณ์ของ concept album ด้วยการนำบางท่อนจาก Jet และ Mrs Vandebilt มาใส่ใน Picasso's Last Words และจบอัลบั้มด้วย snippet สั้นๆจาก Band on The Run
อย่าลืมหา Helen Wheels / Country Dreamer ซิงเกิ้ลที่ออกมาก่อนหน้าอัลบั้มนี้จาก session เดียวกันมาฟังด้วยล่ะ
No comments:
Post a Comment