Wednesday, February 8, 2017

#19 The Stone Roses :: The Stone Roses (1989)

จำเป็นหรือไม่ที่ศิลปิน,ไม่ว่าจะเป็นแขนงไหน, ต้องออกผลงานมาในปริมาณพอสมควร,ในช่วงเวลาที่ยาวนานระดับหนึ่ง,ถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ว่าเขาคือศิลปินระดับตำนาน? อาจจะใช่, ถ้าเราดูกันที่คำว่า "ตำ-นาน" แล้วถ้าศิลปินคนหรือกลุ่มนั้นมีผลงานออกมาเพียงน้อยนิดชนิดนับด้วยนิ้วแค่ครึ่งมือยังเหลือ แถมเวลาในการทำงานยังสั้นจุ๊ดจู๋ล่ะ? มันคงต้องหาคำใหม่ สำหรับการตำไม่นาน แต่ตอกแรง ฝังลึกในประวัติศาสตร์อย่างนั้น นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมอยากจะพูดสำหรับอัลบั้ม The Stone Roses ของ The Stone Roses

พวกเขามาจากไหน อาจจะมีคนรู้ แต่ไม่ใช่ผมในปีพ.ศ. ๒๕๓๒ หรอก ผมรู้แต่เพียงว่าบทความรีวิวอัลบั้มนี้โดยคอลัมนิสต์คนหนึ่ง (จำไม่ได้ว่าเป็นใคร) ในนิตยสารสีสัน ทำให้แทบรอไม่ได้ที่จะขึ้นรถเมล์ไปหาซื้อเทปม้วนนี้มาฟัง ผมจำรายละเอียดไม่ได้หรอกว่าเขาเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่อารมณ์ประมาณ นี่คือปรากฏการณ์ของดนตรี คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ฟัง!

และอย่างว่าง่าย ผมเห็นด้วยกับรีวิวนั้นเต็มประตูหัวใจ แถมอาจจะเห็นเลยไปกว่านั้นอีก แค่ภาพปกก็โดนเต็มๆ ฝีมือการสาดสีของจอห์น สไควร์มือกีต้าร์ ในสไตล์ของ Jackson Pollack ประดับด้วยมะนาวฝานสามชิ้นและสามสีของธงชาติฝรั่งเศส (ฝากคุณไปทำการบ้านว่ามันเกี่ยวอะไรกัน) ฝีมือการสาดสีของจอห์นดูจะล้อกันไปกับฝีมือกีต้าร์ของเขา ดู random และ chaos แต่งดงาม ลึกล้ำ

แล้วเพลงในนั้นล่ะ....? มันเป็นเพลงร็อคที่เต้นได้ มันเป็นเพลงป๊อบจับใจที่หลอนจิตราวกับไซคีดีลิคมิวสิค มันมีความเป็นอินดี้เสียก่อนที่โลกจะรู้จักคำว่าอินดี้ เอียน บราวน์ ร้องด้วยเสียงที่ล่องลอย ยียวน อหังการ ตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาเปิดปากใน I Wanna Be Adored "I don't have to sell my soul, it's already in me." ถ้าพวกเขาต้องการความชื่นชมระดับนั้น ผมก็ให้ไปเลยตั้งแต่แทร็คแรก

แต่แทร็คแล้วแทร็คเล่า พวกเขาไม่ได้หยุดเท่านั้น เพลงชั้นเลิศเรียงหน้ากันเข้ามาไม่หยุดหย่อน Bye Bye Badman, She Bangs The Drums, Sugar Spun Sister, Shoot You Down, Made of Stone โกงนิดหน่อยในการเล่นเพลง Waterfall ย้อนหลังทั้งเพลงแล้วตั้งชื่อใหม่ว่า Don't Stop (แต่สารภาพว่ากว่าจะทราบเรื่องนี้ก็หลายปีต่อมา) และปิดท้ายด้วยเพลงปิดอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน อหังการเหลือเกิน (คำเดียวกับแทร็คแรก) I Am The Resurrection ท่อน false ending ของเพลงนี้ตีความได้เป็นการกลับมาเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของใครสักคน (ท่อนเบสริฟฟ์ของเพลงนี้ได้มาจากการเล่นเบสริฟฟ์ของพอล แมคคาร์ทนีย์ในเพลง Taxman... ย้อนหลัง)

พวกเขายังมีอัลบั้มต่อจากนี้อีก 1 ชุด และกลับมารียูเนียนกันเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมเพลงใหม่สองสามเพลง แต่อิมแพ็คของมันเหมือนจุดเล็กๆในดวงอาทิตย์ เมื่อเทียบกับอัลบั้มแรกของพวกเขาในปี 1989 นี้



No comments:

Post a Comment