ไม่กี่วันก่อนเพิ่งได้เห็น meme ล้อเลียนประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ด้วยเพลง Mother ("Mother should I run for President?" / "Mother should I build the wall?") ก็อดยิ้มไม่ได้ อัลบั้มเก่าขนาดนั้น แต่ยังอุตส่าห์มีคนมาโยงกับผู้นำคนปัจจุบันจนได้ นี่คือความน่ารักของโลกโซเชียล
The Wall เป็นอีกอัลบั้มที่ผมอ่านมาก่อนฟัง จากนิตยสารซุปเปอร์โซนิค (ไทย) ที่น่าจะเป็นฉบับเก่า,ได้มาจากแผงหนังสือสนามหลวง (ยุคนั้นการไปคุ้ยหาหนังสือและนิตยสารเก่าๆจากที่นั่นเป็นอะไรที่น่าระทึกมาก) ใครเป็นคนเขียนรีวิวก็จำไม่ได้ ทราบแต่ว่าเป็นรีวิวที่เรียกร้องความทรหดพอสมควร ทั้งคนเขียนและคนอ่าน เพราะพี่ท่านบรรยายละเอียดทีละเพลง ตั้งแต่ In The Flesh? จนถึง Outside The Wall! เขียนกันทุกเม็ดว่ากลองกระทุ้งหนักหน่วงแค่ไหนใน The Happiest Days of Our Lives หรือเสียงประสานใน The Show Must Go On มันหนักแน่นนิ่มนวลเพียงใด การร้องของเดวิดและโรเจอร์ได้รับคำชมอย่างมากมาย อันที่จริงบางคนอ่านรีวิวนี้แล้วอาจจะคิดว่า เอาล่ะ ฉันคงไม่ต้องฟังเองแล้วมั้ง
แต่ผมไม่ใช่หรอกครับ โธ่ ยุคนั้นเด็กที่ขึ้นชื่อว่า"บ้าเพลง" ถ้าไม่มีเทป The Wall นี่.. ยังไงดี นึกไม่ออก ก็เห็นมีกันทุกคน และตามสูตรของนักเสพดนตรี เมื่อเวลาผ่านไป สำหรับอัลบั้มสุดรักอย่างนี้ ก็ต้องตามด้วยแผ่นเสียง,ซีดี และกรณีนี้พิเศษหน่อยที่มีภาพยนตร์ด้วย (Pink Floyd: The Wall) อันทำให้เข้าใจหลายๆอย่างในอัลบั้มดีขึ้น (อย่างน้อยก็ตรงกับที่โรเจอร์คิด) วงจร The Wall ของผม ปิดท้ายด้วยการได้ชม Roger Waters ที่กรุงเทพฯ และการได้เห็น Pink Floyd เล่นเพลงสุดท้าย : Comfortably Numb ใน Live 8 (ดูถ่ายทอดสดยามรุ่งเช้า)
ก่อนที่จะมาจัด Top 100 ที่นี่ มันก็เป็นงานอดิเรกของผมอยู่แล้วที่ชอบจัดลิสต์เอง อ่านเองอยู่คนเดียว (หรืออาจมีแบ่งปันบ้าง) ถ้าย้อนหลังไปอีกหลายๆปี The Wall คงอยู่ในอันดับสูงกว่านี้ แต่นี่มันถดถอยร่วงหล่นลงมาบ้าง น่าจะเป็นเพราะฟังมากเกินไปจนถึงจุดที่ไม่อยากฟังอีกแล้ว (มีไม่กี่อัลบั้มหรอกที่จะได้รับเกียรตินี้จากผม) แต่ถึงจะฟังจนเอียนแค่ไหน มันก็ยากที่จะไม่ยกย่องมัน
โรเจอร์ วอเตอร์ส นำเดโมไอเดียสองชิ้นมาให้เพื่อนร่วมวงเลือกว่าจะเอาอันไหนมาทำเป็นอัลบั้มใหม่ของ Pink Floyd ตัวเลือกนั้นคือ The Pros and Cons of Hitch Hiking และ The Wall แทบทุกคนเลือก The Wall ก็น่าจะเหมาะนะครับ เพราะ The Pros... ดูเป็นส่วนตัวกว่า และน่าจะเก็บไว้ทำงานเดี่ยวของโรเจอร์นั่นแหละ สมเหตุสมผลแล้ว ใน The Wall นี่โรเจอร์มีบทบาทมากมายจนแทบจะเป็น solo project ของเขา แต่พาร์ตกีต้าร์ของ Gilmour และเสียงร้องของเขาในบางเพลงก็เป็นส่วนสำคัญของ The Wall
ชอบหรือไม่ชอบ ทุกคนก็ยอมรับว่าไอเดียและคอนเซพท์ของ The Wall นั้นมันโดนสุดๆ แค่คำว่ากำแพงคำเดียว ก็คิดไปได้มากมาย ปกป้อง หรือ กักขัง? , ใครก่ออิฐสร้างกำแพงนี้ ตัวคุณเองหรือคนอื่นๆ --ครู,แม่,เมีย, นักการเมือง หรือทุกๆคนช่วยกันวางอิฐคนละก้อน?, เราควรจะสร้างกำแพงนี้ไหม? และถ้ามันมีแล้ว เราควรจะพังมันออกไปไหม เมื่อไหร่ อย่างไร?
คำว่าทุกคนก็ยอมรับในไอเดียนี้ ไม่ได้หมายถึงแค่พวกพิงค์ ฟลอยด์เอง แต่หมายถึงผู้ฟังนับล้านๆทั่วโลกด้วย มันเข้าถึงได้ไม่ยาก เพียงแต่คุณจะเข้าได้ลึกแค่ไหน ในดนตรีและเนื้อหาของโรเจอร์ ที่ใช้คำธรรมดาๆ แต่เปี่ยมสัญลักษณ์และลูกเล่นทางภาษา และจะว่าไป, ไม่ว่าใครที่ไหน โดยเฉพาะวัยรุ่น มันก็โดนใจนักกับคำว่า "กรอบ" กำแพงกั้น ที่อยากทำลายมันเหลือเกิน คนฟังจึงรู้สึก "ฟิน" เป็นบ้า เมื่อได้ฟังเสียงกำแพงถูกพังทลายเป็นจุลในตอนท้ายเพลง The Trial ตามมาด้วยบรรยากาศแห่งความสงบแห่งชัยชนะใน Outside The Wall.....
.....เพียงเพื่อจะได้พบว่าเสียงสุดท้ายในเพลงสุดท้ายนั้นคือเสียงแรกในเพลงแรก In The Flesh?
เพลงโปรด : Another Brick In The Wall ทั้ง ๓ ภาค, Comfortably Numb, The Trial, Goodbye Blue Sky, Hey You, Nobody Home
Cool LP...+++
ReplyDelete