Wednesday, February 8, 2017

#44 Jackson Browne :: The Pretender (1976)



เป็นที่ทราบกันว่าผู้ชายคนนี้คือ "ราชาแห่งเวสต์โคสต์"

"เขา" บอกผมว่าก็เป็นผู้ชายคนนี้แหละ ที่ร่วมแต่งเพลง Take It Easy กับ Glenn Frey
เขาทำหน้าผิดหวังและมีอาการรีบเร่งเมื่อทราบว่าผมยังไม่เคยฟังงานของ Jackson Browne มาก่อน
"ถ้าเธอชอบ Eagles นี่คือชั้นปีต่อไปในการฟัง"
รู้สึกตัวอีกที เทปที่มีหน้าปกคุณแจ็คสัน บราวน์ เสื้อยืดขาว กางเกงขาบาน ผมยาวสลวยเดินข้ามถนนกับคนอื่นๆที่เหมือนไม่มีใครไยดีใคร--- ก็อยู่ในมือผมแล้ว
มันคือเทปไม่ถูกลิขสิทธิ์ ยี่ห้อละม้ายรุ่นกางเกงยีนส์อเมริกันชื่อดัง
และในวันนั้น,ผมก็ได้หลงรักเพลงของแจ็คสันบราวน์ตั้งแต่ม้วนเทปไหลไปได้ไม่กี่นิ้วในแทร็คแรก "The Fuse"

--------------
The Pretender เป็นอัลบั้มชุดที่ 4 ของบราวน์ หลังจากเขาทำงานมาสเตอร์พีซ Late For The Sky ระหว่างที่เขากำลังเขียนเพลงเพื่ออัลบั้มนี้ โศกนาฎกรรมแห่งชีวิตก็เดินทางมาคั่นเวลา ภรรยาคนแรกของเขา--ฆ่าตัวตาย ทิ้งบราวน์ไว้กับลูกชายคนเดียววัย 2 ขวบ

ถ้าเป็นศิลปินอื่น ก็อาจจะพับงานไปเลยหรือไม่ก็แต่งเพลงเศร้าโศกอาลัยคนรักทั้งชุด แต่มันไม่ใช่กับบราวน์ใน The Pretender แน่นอน,มันมีความอาดูรลึกล้ำอบอวลอยู่ในสุุ้มเสียงและถ้อยคำ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด บราวน์แตะเรื่องต่างๆรอบตัวเขา จากใกล้ตัวที่สุดจนถึงไกลสุด แตกต่างกันออกไปใน 8 แทร็ค 35 นาทีนี้

เขาเขียนถึงยุควิปโยคที่อาจเข้ามาใกล้กว่าที่คุณจะรู้ตัว และการเลือกในการที่จะเป็นคนที่คุณอยากจะเป็นใน The Fuse (อาจจะตีความไปได้อีกหลายอย่าง บางคนเรียกมันว่า The Confuse), บอกรักอย่างสุดกวีใน Your Bright Baby Blues ("ถ้าคุณฟังผมอยู่, ช่วยเบาวิทยุลงหน่อย, ผมมีอะไรอย่างหนึ่งจะบอกคุณ, ทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้คุณ, ผมรู้สึกได้ถึงรักที่เวียนว่ายอยู่ในวิญญาณนี้") , พาเที่ยวเม็กซิโกใน Linda Paloma, มุมมองของผู้ชายเข็ดรักใน Here Come Those Tears Again, พูดถึงความเป็นพ่อในสองแทร็ค... Daddy's Tune เหมือนสารภาพผิดกับพ่อ และ The Only Child เมื่อเขาเป็นพ่อเสียเอง, มีบัลลาดสุดเวิ้งว้าง Sleep's Dark and Silent Gate ที่ดูจะใกล้เคียงกับการเป็นเพลงเพื่อภรรยาผู้จากไปของเขาที่สุด

ทั้งหมดขมวดปมด้วย The Pretender ไทเทิลแทร็คที่มาเป็นเพลงปิดอัลบั้ม ชีวิตคนเมืองที่ทำอะไรซ้ำซากไปทุกๆวัน แม้จะเริ่มต้นด้วยจิตใจที่โชติช่วงด้วยพลังความหวัง แต่ปิดท้ายก็ยอมจำนนต่อสังคมและค่านิยม บราวน์ไม่ได้ปลงหรือหมดหวัง เขาถามผู้ฟังว่า คุณอยู่แถวนี้ไหม? ช่วยสวดมนต์ให้ The Pretender พวกนี้หน่อย มันเป็นการเขียนเนื้อเพลงที่ชาญฉลาดอย่างยิ่งยวดจนทำให้สามารถมองว่า The Pretender คือเขาเอง, คนอื่น หรือ คุณคนฟังนั่นแหละ, ก็ได้!

แต่ first impression ที่ทำให้ผมหลงรักเพลงเหล่านี้ คงไม่ใช่ความงดงามของเนื้อหา แต่เป็นท่วงทำนองและดนตรี มันคือ laid-back california rock ที่ไม่ใช่เพลงฟังสบายน่าเบื่อแม้แต่เพลงเดียว (เอาล่ะ, อาจจะเว้น Linda Paloma เพลงนึง) เสียงร้องของบราวน์มันซึมๆหวานๆ เหมือนคนเมาระดับตรวจวัดแอลกอฮอล์ยังพอผ่าน กีต้าร์โดย David Lindley,Lowell George เบสฝีมือ Leland Sklar และกลองโดย Jeff Porcaro (หลักๆ) ชื่อพวกนี้ จะว่าไปก็ไปโผล่ในอัลบั้มอื่นของศิลปินอื่นที่ผมเลือกเข้ามาในลิสต์หลายชุด อ้อ ส่วนตัวบราวน์เองนอกจากร้องก็เล่นคีย์บอร์ด,เปียโน และกีต้าร์โปร่ง

ความยอดเยี่ยมกลมกล่อมของดนตรีแบบนี้ ผมไม่โทษแฟนเพลงยุค 70's จริงๆ ที่ถ้าพวกเขาบางคนจะรับไม่ค่อยได้กับดนตรีในยุคอื่น....

Late For The Sky อาจจะสมบูรณ์แบบกว่า, Running On Empty น่าจะสร้างสรรค์และสะท้อนชีวิตนักดนตรีได้อย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน, For Everyman อาจจะมีความเป็นกวีหนุ่มน่าค้นหา แต่ผมไม่ได้เลือกอัลบั้มพวกนั้นของบราวน์มาไว้ในลิสต์นี้ อาจจะเป็นเพราะผมเชื่อบราวน์ในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งของ The Fuse

Like a part of me
It speaks to the heart of me
Forget what life used to be
You are what you choose to be
It's whatever it is you see
That life will become

ครับ,ผมเลือก The Pretender...amen.

No comments:

Post a Comment